ไม่ได้ดีเหมือน

ไม่ได้ดีเหมือน สมัยก่อนประธาน โลโคโมทีฟ มอสโก เปิดด้านมืดของ ราล์ฟ รังนิค ชี้เป็นพวกเห็นแก่เงิน มิได้พอใจบอล

ไม่ได้ดีเหมือน บอกหากมีข้อเสนอแนะก้อนโตก็อาจจะชิ่งหนี แมนฯ ยูไนเต็ด ไปอีก นิโคไล นาอูมอฟ สมัยก่อนประธานชมรม โลโคโมทีฟ มอสโก กลุ่มดังในลีกรัสเซีย ออกโรง ยอมเผยแล้ว

วิภาควิจารณ์ ราล์ฟ รังนิค ว่าที่ผู้จัดการทีมฟุตบอลชั่วครั้งชั่วคราวของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ว่าเป็นผู้ที่ให้ความเอาใจใส่กับเรื่องเงินมากยิ่งกว่าบอล

รังนิค วัย 63 ปี ผู้ครอบครองสมญานาม “เดอะ โปรเฟสเซอร์” จะเข้ามาเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลชั่วครั้งคราวของ “ปีศาจแดง” ตรงเวลา 6 เดือนหรือจนถึงจบฤดูนี้ และก็พอหมดคำสัญญาจะได้สานงานต่อในหน้าที่ที่ปรึกษาของชมรมอีก 2 ปี

ไม่ได้ดีเหมือน

“ปีศาจแดง” ควรต้องจ่ายเงินชดเชยให้ โลโคโมทีฟ มอสโก เนื่องจากว่าในขณะนั้น รังนิค เป็นหัวหน้าฝ่ายกีฬาและก็ปรับปรุงสมาคม โดยมีคำสัญญาถึงมิถานายน ปี 2024 ข้างหลังก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา เคยคุมอีกทั้ง ชาลเก้ 04, ฮันโนเวอร์, สตุ๊ตการ์ท, ฮอฟเฟ่นไฮม์ รวมทั้ง แอร์เบ ไลป์ซิกข์ ผลบอลเมื่อคืน

นาอูมอฟ เปิดเผยผ่าน แมตช์โทรทัศน์ ว่า “มันไม่เกี่ยวกับ แมนฯ ยูไนเต็ด เนื่องจากสำหรับ รังนิค เป็นพวกถูกใจเอาตัวรอด, ทรยศ แล้วก็น่าอับอาย เขาเป็นพวกหัวกิจการค้า แน่ๆเขาไม่แคร์บอล เพราะเหตุว่าเขาทำธุรกิจรอบกายเขาเพียงแค่นั้น”

“ยิ่งเขาดำเนินการมาในหลายประเทศ หลายลีก และก็หลายสมาพันธ์บอลเยอะแค่ไหน เขาก็ยิ่งมีรายได้มากขึ้นเรื่อยๆแค่นั้น เขาเฉยเมยกับ โลโคโมทีฟ อย่างสิ้นเชิง ไม่ได้มาตรงนี้เพื่อยกฐานะบอล แม้กระนั้นมาเพื่อหาเงิน”

จนกระทั่งถีงในตอนที่เขียนเนื้อหาของบทความนี้ถ้าหากจะกล่าวว่ามันได้โอกาสสูงระดับ 99 เปอร์เซ็นต์

ที่ ราล์ฟ รังนิค จะเข้ามาเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลชั่วครั้งคราวให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มันก็คงไม่ผิดนัก

ด้วยเหตุว่าสื่อดูเหมือนจะทุกเจ้าต่างก็รายงานตรงกันว่าฝั่ง “ปีศาจแดง” กับ รังนิค บรรลุข้อตกลงกันได้เป็นที่เป็นระเบียบ โดยช่วงนี้เหลือเพียงแค่คอยให้ แมนฯ ยูไนเต็ด หาผลสรุปกับ โลโคโมทีฟ มอสโก ให้ได้แค่นั้น ด้วยเหตุว่า รังนิค พึ่งไปรับงานกับหัวหน้าฝ่ายกีฬารวมทั้งการพัฒนาของตรงนั้นเมื่อตอนมิ.ย.ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา

ไม่ได้ดีเหมือน

ดังนี้ ตามรายงานเจาะจงเพราะว่านอกเหนือจากที่จะได้คุม แมนฯ ยูไนเต็ด แบบชั่วครั้งชั่วคราวไปจนกระทั่งจบฤดูนี้ รังนิค จะยังได้อยู่กับกลุ่มถัดไปในอีก 2 ฤดูกาลภายหลังจากนี้ ในฐานะที่ปรึกษาของ แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วยเหมือนกัน

โดยมันจะมีผลให้เขามีอำนาจสำหรับการปรับเปลี่ยนโครงสร้างต่างๆของชมรม ยกตัวอย่างเช่นลักษณะของอะคาเดมี่ รวมทั้งที่มีความสำคัญในการรบการเสริมกองทัพได้ https://www.lynnmeadowsgolf.com

อย่างที่ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยรู้กันดีว่า รังนิค มีชื่อมีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในแวดวงบอลเยอรมัน โดยคนจำนวนไม่น้อยให้เครดิตกับเขาว่าผู้ให้กำเนิดสไตล์การเล่นที่ย้ำบีบคั้นคู่ปรปักษ์แบบรวดเร็วเมื่อกลุ่มของตนเองเสียการครอบครองบอลแม้ว่าจะอยู่ตั้งแต่ในดินแดนหน้า หรือที่เรียกกันว่า “เกเก้นเพรสซิ่ง” ซึ่งอีกทั้ง เจอร์เก้น คล็อปป์ แล้วก็ โธมัส ทูเคิ่ล ก็เอาสไตล์ที่ว่ามาใช้สำหรับการคุมกลุ่มของพวกเขาเองจนถึงทำให้พวกเขาบรรลุเป้าหมายในอาชีพการควบคุมกลุ่มอย่างยิ่ง นอกเหนือจากนั้น เขายังส่งผลงานที่สะดุดตาในตำแหน่งผู้อำนวยการกีฬาด้วย

อย่างไรก็ดี นอกเหนือจากที่จะมีชื่อเสียงในด้านผลงานทั้งยังตำแหน่งที่ปรึกษาแล้วก็ผู้อำนวยการบอลแล้วนั้น รังนิค ยังมีคุณลักษณะเด่นในด้านการไม่ยินยอมใครกันแน่กล้วยๆด้วย รวมทั้งหนึ่งในเหตุที่เกี่ยวกับประเด็นนั้นก็คือขณะที่เขาเป็นผู้ฝึกสอนให้กับ ฮอฟเฟ่นไฮม์ กลุ่มในลีกของเมืองเบียร์สด

ย้อนเรื่องในอดีตกันก่อนว่า รังนิค ได้เข้าไปรับงานคุม ฮอฟเฟ่นไฮม์ เมื่อปี 2006 โดยมันนับว่าเป็นงานแรกของเขาตั้งแต่แมื่อที่เขาโดน ชาลเก้ 04 ไล่ออกจากการเป็นที่ปรึกษาของกลุ่มเมื่อตอนธันวาคม ปี 2005 ซึ่งในเวลานั้น ฮอฟเฟ่นไฮม์ เล่นอยู่ในลีกระดับ 3 ของประเทศเยอรมนี้เพียงแค่นั้น

มันสมองของ รังนิค ช่วยปรับให้ ฮอฟเฟ่นไฮม์ เลื่อนชั้นสู่ ลีกา 2 ได้ตั้งแต่ในฤดูกาลแรกของเขากับ ฮอฟเฟ่นไฮม์ ในตอนที่พอเพียงถึงฤดู 2007-08 ฮอฟเฟ่นไฮม์ ของเขาก็ได้ชั้น 2 กระทั่งทำให้กลุ่มได้สิทธิ์เลื่อนชั้นสู่ บุนเดสลีกา เยอรมัน พูดได้ว่าเขาใช้เวลาเพียงแค่ไม่นานนักสำหรับเพื่อการนำกลุ่มขึ้นสู่ลีกสูงสุดได้

แน่ๆว่าผลงานแบบงั้นทำให้ ฮอฟเฟ่นไฮม์ เชื่อถือในความสามารถของ รังนิค แล้วก็ให้เขาคุมกลุ่มต่อ ซึ่งในช่วงฤดูกาลแรกกับการเล่นบน บุนเดสลีกา กลุ่มของ รังนิค จบฤดูด้วยการเป็นถึงที่ 7 ของลีก ก่อนที่จะตามมาด้วยการเป็นชั้น 11 ในช่วงฤดูกาล 2009-10 โดยในฤดูกาลที่ว่า ฮอฟเฟ่นไฮม์ ไปถึงรอบก่อนรองชนะเลิศของ เดเอฟเบ-โพติดอยู่ล ได้ด้วย

แต่ ความเกี่ยวเนื่องที่เคยราบรื่นระหว่าง รังนิค กับกระดานบริหารของ ฮอฟเฟ่นไฮม์ ก็มาถึงตอนอวสานแบบที่ไม่แฮปปี้เอ็นดิ้งในฤดูกาล 2010-11

จะต้องบอกก่อนว่าในตอนนั้น บาเยิร์น มิวนิค กลายเป็นข่าวสารมีความสนใจในตัว ลุยซ์ กุสตาโว่ มิดฟิลด์ชาวบราสิเลียนของ ฮอฟเฟ่นไฮม์ อย่างยิ่ง โดยที่ รังนิค เป็นคนค้นหาเพชรเม็ดสวยรายนี้พบแล้วดึงมาอยู่กับ ฮอฟเฟ่นไฮม์ เมื่อปี 2008 ซึ่งแม้ว่าเขาจะไม่ใช่นักฟุตบอลที่เป็นที่รู้จักเลื่องลือ แม้กระนั้นเขานับว่าเป็นกระดูกสันหลังของ ฮอฟเฟ่นไฮม์ ก็ว่าได้

อย่างที่ทราบกันดีว่าในแวดวงบอลเยอรมันนั้น บาเยิร์น เป็นกลุ่มที่มีแม่เหล็กเย้ายวนใจนักฟุตบอลและก็ที่ปรึกษาได้มากกว่ากลุ่มร่วมลีกทุกครั้งม ไม่ว่าลำแข้งกับผู้จัดการทีมฟุตบอลพวกนั้นจะเล่นอยู่ใน บุนเดสลีกา หรืออยู่ในลีกของประเทศอื่นก็ตาม อย่างที่มองเห็นกันแล้วว่าขนาดนักฟุตบอลของกลุ่มระดับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ยังพึงพอใจที่จะบอกลา “เสือเหลือง” ไปซบ “เสือใต้” เลย

แต่กระนั้น ตอนฤดู 2010-11 รังนิค ตั้งใจกับการพัฒนา ฮอฟเฟ่นไฮม์ ให้เปลี่ยนเป็นหนึ่งในกลุ่มชั้นหนึ่งของ บุนเดสลีกา มากมายๆจนกระทั่งประกาศเลยว่ายังไงๆอย่างไรเขาก็จะไม่ขาย กุสตาโว่ ด้วยเหตุว่าคิดว่าการปลดปล่อยลำแข้งระดับนี้กึ่งกลางฤดูมันก็ราวกับการยอมแพ้ไปในตัว โดยที่ในช่วงเวลานั้น ฮอฟเฟ่นไฮม์ กำลังบากบั่นลุ้นทำชั้นให้ติดโควตาสำหรับเพื่อการได้สิทธิ์ลงเล่นเกมถ้วยยุโรป

ในเวลาที่ พอล แชปแมน ผู้ที่มีความชำนาญ ของแวดวงบอลเยอรมัน กล่าวเกี่ยวกับหัวข้อนี้ด้วยเหมือนกันว่า “รังนิค ยังมีคำสัญญาของเขาอยู่ และก็แท้จริงเขาสามารถอยู่กับกลุ่มถัดไปแล้วรับเงินของเขาไปจนกระทั่งตอนซัมเมอร์ปี 2012 ก็ได้ แต่ว่าเขารู้สึกราวกับว่าโดนทรยศ”

ในขณะที่ รังนิค กล่าวลา ฮอฟเฟ่นไฮม์ ไปนั้น กลุ่มอยู่ในชั้น 8 ของลีก ในเวลาที่ มาร์โก เปซไซอูโอลี่ ซึ่งเข้ามารับงานต่อจากเขาพาทีมจบฤดูนั้นด้วยการเป็นที่ 11

เรื่องราวของ รังนิค กับ ฮอฟเฟ่นไฮม์ น่าจะเป็นสิ่งที่เตือนสติบอร์ดบริหารของ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้อย่างดีเยี่ยมว่าไม่สมควรเข้ามาล่วงล้ำหน้าที่การงานของเขาเยอะเกินไป ถ้าเกิดทาง “ปีศาจแดง” อยากที่จะให้การร่วมงานกันในคราวนี้ระหว่างอีกทั้ง 2 ข้างสิ้นสุดลงด้วยดี

By admins